เห็นเขาว่าอารยธรรมแห่งภูฏานเริ่มมีการเปลี่ยนไปจริงหรือเปล่าครับ ที่ผมบอกว่าเปลี่ยนไปคืออย่างนี้ครับคือผมมีโอกาสได้เห็นตามเว็บบอร์ดพันทิปเขาเล่ากันว่าที่ประเทศนี้เริ่มเปลี่ยนไปเพราะว่าเริ่มมีเทคโนโลยีเขาไปเชื่อมต่อกันมากขึ้น ทำให้เทคโนโลยีความคิดพัฒนาขึ้นไปเรื่อย ๆ จนบางครั้งวัฒนธรรมที่เราเคยเห็นและเคยได้สัมผัส อาจจะไม่เหมือนเดิม ผมก็อ่าน ๆ จากที่เขาเล่ามาอ่ะน่ะครับ ซึ่งไม่รู้ว่าแน่ชัด หรือว่าจริงหรือเปล่า ถ้าใครอยากอ่านลองไปอ่านที่บอร์ดพันทิปดูนะครับ
ถ้าไม่มีเหตุการณ์ขัดแย้ง หรือว่าเรื่องร้าย ๆ อะไรเกิดขึ้นที่ประเทศภูฏาน ผมก็มองว่าภูฏานเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่น่าท่องเที่ยวใช้ได้เลยนะครับ ยังเป็นสถานที่ ๆ น่าท่องเที่ยวในเชิงอารยธรรมอยู่ดี ๆ ถ้าเรามองภาพไม่ออกลองนึกดูสังคมประเทศของพวกเราเองดูครับว่าดีไปกว่าเขาหรือเปล่า ก็ยังมีคนมาเที่ยว เพราะว่าประเทศไทยเองก็มีอารยธรรมและสังคมคล้าย ๆ กันในเรื่องการโอบอ้อมอารีครับ
ภูฏานเองก็เช่นกันยึดหลักศาสนา ธรรมมะ และชีวิตความเป็นสมถะอยู่ในตน คำนึงถึงความสุขมากกว่าที่จะมาแยแสเรื่องเศรษฐกิจร่วมกับโลกอื่น ๆ ของเขาเอง สำหรับผมนับว่าหาได้ยากมากเลยครับ เมื่อรู้อย่างนี้แล้วผมเองก็คงจะต้องหาโอกาสไปเยี่ยมเยียนประเทศแบบนี้บ้างแล้วสินะ ถ้าหากย้อนกลับไปผมเองก็ไม่รู้จักหรอกครับว่าภูฏานนั้นเป็นอย่างไร จนเมื่อเจ้าชายจิกมีเสด็จมาเยือนประเทศไทยในปี 49 ซึ่งผมเองก็รู้จักประเทศภูฏานตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา สำหรับใครที่อยากไปเที่ยวที่ประเทศอารยธรรมแห่งนี้ ผมขอแนะนำบริษัททัวร์ของเว็บไซต์นี้เลยครับ http://www.earththaitravel.com/bhutan/bhutan.php แพเกจทัวร์ และบริการค่อนข้างดีครับ ยังไงก็อย่าลืมตรวจสอบและเปรียบเทียบเรื่องราคากันด้วยนะครับ และตอนนี้ผมมีความรู้สึกว่าอยากปลุกพลังในการท่องเที่ยวที่ประเทศภูฏานซะแล้วสิ